การอาชญากรรมและอาชญากรคอมพิวเตอร์
-การอาชญากรรมคอมพิวเตอร์คอม เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมาย โดยใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ รวมถึงการก่อกวนโดยกลุ่มแฮกเกอร์
-อาชกรคอมพิวเตอร์ คือ ผู้กระทำผิดกฏหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญ สามารถจำเเนกอาชญากรเป็นกลุ่มดังนี้
1.แฮกเกอร์ คือ แฮกเกอร์ บุคคลที่ใช้ความสามารถในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฏหมาย
2.เเครกเกอร์ คือ แฮกเกอร์ที่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ในทางธุรกิจ
3.แฮกดีวิสต์หรือไซเบอร์เทอร์รอริสต์ คือ แฮกเกอร์ที่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
-อาชกรคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกจัดออกเป็น ๙ ประเภท ดังนี้
1.การขโมยข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
2.การที่อาญากรนำเอาระบบการสื่อปกปิดความผิดของตนเอง
3.การละเมิดสิทธิปลอมแปลงรูปแบบ
4.การใช้คอมพิวเตอร์แพร่ภาพ ลามกอนาจาร
5.การใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
6.การที่มีอัธพาลทางคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปก่อกวนทำลายระบบสาธรณูปโภค เช่น จ่ายค่าไฟ
7.การหลอกลวงให้ร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม
8.การแทรกแซงข้อมูลแล้วนำมาเป็นประโยชน์ต่อตนเองโดยมิชอบ
9.การใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าบัญชีตนเอง
-การใช้คอมพิวเตอร์ในฐานะเป็นเครืองมือในการก่ออาญากรรม มีหลายรูปแบบ เช่น
(1.)การขโมยหมายบัตรเคดิต ซึ่งอาจทำได้จาก
1.การขโมยผ่านทางอืเล็กทรอนิส์
2.การชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเคดิต
-คอมพิวเตอร์ในฐานะของเป้าหมายอาชญากรรม
อาชญากรรมในคอมพิวเตอร์มี ๓ ประเด็น คือ
1.การเข้าถึงและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุณาต
2.การก่อกวนหรือทำลายข้อมูล
3.การขโมยข้อมูลและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
-อาชกรคอมพิวเตอร์ คือ ผู้กระทำผิดกฏหมายโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำคัญ สามารถจำเเนกอาชญากรเป็นกลุ่มดังนี้
1.แฮกเกอร์ คือ แฮกเกอร์ บุคคลที่ใช้ความสามารถในทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฏหมาย
2.เเครกเกอร์ คือ แฮกเกอร์ที่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ในทางธุรกิจ
3.แฮกดีวิสต์หรือไซเบอร์เทอร์รอริสต์ คือ แฮกเกอร์ที่ทำไปเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
-อาชกรคอมพิวเตอร์ ทั่วโลกจัดออกเป็น ๙ ประเภท ดังนี้
1.การขโมยข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต
2.การที่อาญากรนำเอาระบบการสื่อปกปิดความผิดของตนเอง
3.การละเมิดสิทธิปลอมแปลงรูปแบบ
4.การใช้คอมพิวเตอร์แพร่ภาพ ลามกอนาจาร
5.การใช้คอมพิวเตอร์ฟอกเงิน
6.การที่มีอัธพาลทางคอมพิวเตอร์ที่เข้าไปก่อกวนทำลายระบบสาธรณูปโภค เช่น จ่ายค่าไฟ
7.การหลอกลวงให้ร่วมค้าขายหรือลงทุนปลอม
8.การแทรกแซงข้อมูลแล้วนำมาเป็นประโยชน์ต่อตนเองโดยมิชอบ
9.การใช้คอมพิวเตอร์แอบโอนเงินบัญชีผู้อื่นเข้าบัญชีตนเอง
-การใช้คอมพิวเตอร์ในฐานะเป็นเครืองมือในการก่ออาญากรรม มีหลายรูปแบบ เช่น
(1.)การขโมยหมายบัตรเคดิต ซึ่งอาจทำได้จาก
1.การขโมยผ่านทางอืเล็กทรอนิส์
2.การชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเคดิต
-คอมพิวเตอร์ในฐานะของเป้าหมายอาชญากรรม
อาชญากรรมในคอมพิวเตอร์มี ๓ ประเด็น คือ
1.การเข้าถึงและการใช้งานโดยไม่ได้รับอนุณาต
2.การก่อกวนหรือทำลายข้อมูล
3.การขโมยข้อมูลและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
-วิธีการใช้งานในการกระทำความผิดทางอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ โดยทั่วไปแล้ว วิธีการที่ใช้ในการประกอบอาชญากรรมทางคมพิวเตอร์ดังต่อไปนี้
1.ดาตาดิดลิง คือ การเปลี่ยนเเปลข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตก่อน การเปลี่ยนเเปลงข้อมูลนี้สามารถกระทำโดยบุคคลใดก็ได้ ซึ้งข้อมูลดังกล่าวหากถูเเก้ไขเพียงเล็กน้อยพนักงานเเต่ละคนจะไม่สงสัย
2.โทรจันฮอร์ส การเขียนโปรเเกรมคอมพิวเตอร์ที่แงไว้ในโปรเเกรม วีธีนี้มักใช้กับการฉ้อโกงทางคอมพิวเตอร์
3.ซาลามืเทคนิค วิธีปัดเศษจำนวนเงิน แล้วนำมาทศนิยม นอกจากใช้กับการปัดเศษเงินเเล้ว วิธีนี้อาจใช้กับระบบการตรวจนับของสินค้าได้อีก
4.ซูเปอร์แซพปิง เป็นโปรแกรมที่ใช้ในศูนย์คอมพิวเตอร์ โปรเเกรมซูเปอร์เเซพ จะมีความเสี่ยงมากหากตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี
5.แทรปดอร์ เป็นการเขียนโปรเเกรมที่เลียนเเบบคล้ายหน้าจอปกติของระบบคอมพิวเตอร์ โดยโปรแกรมนี้จะเก็บข้อมูลที่ต้องการไว้ในไฟล์ลับ
6.ลอจิกบอมบ์ เป็นการเขียนโปรเเกรมคำสั่ง สามารถใช้ติดตามดูความเคลื่อนไหวของระบบบัญชี
7.อัสซินครอนีสแอตเเทรก คือสามารถทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันโดยประมวลผล ระบบดังกล่าวก่อให้เกิดจุดอ่อน
8.สกาเวนจิง คือวิธีที่จะได้ข้อมูลที่ทิ้งไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ หรืออาจใช้เทคโนโลยีซับซ่อนทพการหาข้อมูลนั้นๆ
9.ดาตาลีเกจ หมายถึง การทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป บางครั้งคนร้ายอาจตั้งเครื่องดักสัญญาณไวกับคอมพิวเตอร์
10.พิกกีเเบกกิง วิธีการดังกล่าวสามารถทำได้ทั้งกายภาพ อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ใช้สายสื่อสารเดียวกัน
11.อิมเพอร์เนชัน คือ การที่ตนร้ายเเกล้งเปลี่ยนปลอมบุคคลอื่นที่มีอำนาจหือได้รับอนุญาต โดยให้เหยื่อบอกรหัสเดิมก่อน ต่างๆ
12.ไวร์แทปพิง เป็นการลักลอบดักฟังสัญญาณการสื่อสารโดยเจตนา โดยการกระทำความผิดดังกล่าวกำลังเป็นที่วิตกกังวลอย่างมาก
13.ซิมูเลชันแอนโมเดลลิ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนต่างๆ มีการสร้างแบบจำลองในการปฎิบัติการ หรือช่วยเหลือ
- วิธีการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลเเละคอมพิวเตอร์
-มี๔วิธีดังนี้
๑.ใช้ชื่อผู้ใช้ ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสด้วยตนเองภายหลัง
๒.ใช้วัตถุเพื่อการเข้าสู่ระบบ เช่น บัตรเเม่เหล็ก หรือกุญเจ เป็นต้น
๓.ใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ หรือการตรวจสอบ ถ้าข้อมูลไม่ต้องกัน เครื่องคอมพิวเตอร์จะปฎิเสธ
๔.ระบบเรียกกลับ เป็นระบบที่ผู้ใช้ระบุชื่อและรหัสผ่าน เพื่อขอเข้าใช้ หากถูกต้อง คอมพิวเตอร์จะเรียกกับเข้าใช้งานทันที
3.ซาลามืเทคนิค วิธีปัดเศษจำนวนเงิน แล้วนำมาทศนิยม นอกจากใช้กับการปัดเศษเงินเเล้ว วิธีนี้อาจใช้กับระบบการตรวจนับของสินค้าได้อีก
4.ซูเปอร์แซพปิง เป็นโปรแกรมที่ใช้ในศูนย์คอมพิวเตอร์ โปรเเกรมซูเปอร์เเซพ จะมีความเสี่ยงมากหากตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี
5.แทรปดอร์ เป็นการเขียนโปรเเกรมที่เลียนเเบบคล้ายหน้าจอปกติของระบบคอมพิวเตอร์ โดยโปรแกรมนี้จะเก็บข้อมูลที่ต้องการไว้ในไฟล์ลับ
6.ลอจิกบอมบ์ เป็นการเขียนโปรเเกรมคำสั่ง สามารถใช้ติดตามดูความเคลื่อนไหวของระบบบัญชี
7.อัสซินครอนีสแอตเเทรก คือสามารถทำงานหลายๆอย่างพร้อมกันโดยประมวลผล ระบบดังกล่าวก่อให้เกิดจุดอ่อน
8.สกาเวนจิง คือวิธีที่จะได้ข้อมูลที่ทิ้งไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ หรืออาจใช้เทคโนโลยีซับซ่อนทพการหาข้อมูลนั้นๆ
9.ดาตาลีเกจ หมายถึง การทำให้ข้อมูลรั่วไหลออกไป บางครั้งคนร้ายอาจตั้งเครื่องดักสัญญาณไวกับคอมพิวเตอร์
10.พิกกีเเบกกิง วิธีการดังกล่าวสามารถทำได้ทั้งกายภาพ อาจเกิดขึ้นในกรณีที่ใช้สายสื่อสารเดียวกัน
11.อิมเพอร์เนชัน คือ การที่ตนร้ายเเกล้งเปลี่ยนปลอมบุคคลอื่นที่มีอำนาจหือได้รับอนุญาต โดยให้เหยื่อบอกรหัสเดิมก่อน ต่างๆ
12.ไวร์แทปพิง เป็นการลักลอบดักฟังสัญญาณการสื่อสารโดยเจตนา โดยการกระทำความผิดดังกล่าวกำลังเป็นที่วิตกกังวลอย่างมาก
13.ซิมูเลชันแอนโมเดลลิ ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการวางแผนต่างๆ มีการสร้างแบบจำลองในการปฎิบัติการ หรือช่วยเหลือ
- วิธีการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลเเละคอมพิวเตอร์
-มี๔วิธีดังนี้
๑.ใช้ชื่อผู้ใช้ ผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสด้วยตนเองภายหลัง
๒.ใช้วัตถุเพื่อการเข้าสู่ระบบ เช่น บัตรเเม่เหล็ก หรือกุญเจ เป็นต้น
๓.ใช้อุปกรณ์ทางชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือ หรือการตรวจสอบ ถ้าข้อมูลไม่ต้องกัน เครื่องคอมพิวเตอร์จะปฎิเสธ
๔.ระบบเรียกกลับ เป็นระบบที่ผู้ใช้ระบุชื่อและรหัสผ่าน เพื่อขอเข้าใช้ หากถูกต้อง คอมพิวเตอร์จะเรียกกับเข้าใช้งานทันที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น